ข่าวสาร-กิจกรรม

เสวนาที่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด

System

:: กะว่าก๋ากับงานเสวนาที่ปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง ::



บันทึก : กะว่าก๋า
ภาพโดย : ทีมงานของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง












การได้ทำหนังสือหมื่นตา
ทำให้ผมได้รับโอกาสใหม่ๆในชีวิตนั่นคือ
การไปเป็นวิทยากรบรรยายตามสถานที่ต่างๆ

สิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษนั่นคือ
“ความอยาก” ของตัวเองครับ
ความอยากและความน่าสนใจเป็นตัวเลือกแรก
ในการที่ผมจะตัดสินใจไปร่วมงานนั้นหรือไม่....

ต้นปีนี้ไปบรรยายที่เรือนจำเชียงใหม่
กับผู้ฟังที่เป็นนักโทษกว่า 3500 คน

ปลายเดือนที่แล้วไปพูดภายในเวลา 5 นาที
ที่งาน IGNITE CHIANGMAI

และวันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2553...

ผมเต็มใจอยากไปร่วมงานเสวนาที่บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
หัวข้อของงานเป็นสิ่งที่ผมสนใจอยู่แล้ว
นั่นคือการลดเหล้าช่วงเข้าพรรษา

ส่วนตัวผมเองไม่ดื่มเหล้าเลยมานานกว่า 20 ปีแล้ว
ผมสามารถไปร่วมงานสังสรรค์ได้
โดยไม่ต้องดื่มเหล้าแม้แต่หยดเดียว
สามารถสนุกได้โดยไม่ต้องเมา
และผมรู้สึกเสมอครับว่าเหล้า
เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติไม่อร่อยเอาเสียเลย


ผมติดต่อทาง Email กับพี่น้อย
นัดหมายวันเวลา สถานที่และหัวข้อที่จะพูดเอาไว้คร่าวๆ
ว่าจะมีการพูดถึงหนังสือหมื่นตาธรรมะเล่ม 1 ด้วย

ตอนแรกเป็นกังวลนิดหน่อยเรื่องการเดินทางไปลำปาง
เพราะผมไม่ชำนาญเส้นทาง 
แต่พี่น้อยแจ้งว่าบริษัทมีรถรับส่ง
นี่เป็นความทึ่งเป็นเรื่องแรกครับ...


ผมนัดหมายเวลาเอาไว้ 6 โมงเช้าที่ร้าน
เพราะงานจะเริ่มประมาณ 8 โมงครึ่งที่บริษัทปูนซีเมนต์ไทย
จากเชียงใหม่ไปลำปางใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ

ตี 5 . 55 นาที
ผมเดินไปที่ประตูร้าน
รถยนต์มาจอดรอเปิดไฟเลี้ยวเอาไว้
ผมถามว่ามาจากไหน
พี่คนขับบอกว่ามารับวิทยากรที่จะไปบรรยายที่ลำปาง

ผมเดินมาบอกมาดามในห้องว่า

“เธอดูสิ..ว่าเขาเป็นมืออาชีพขนาดไหน
ไม่ผิดเวลานัดหมายแม้แต่นาทีเดียว”










เมื่อไปถึงปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
เจ้าหน้าที่พาผมไปยังเรือนรับรอง
มีข้าวต้มร้อนๆให้ทาน 

เนื่องจากผมไปถึงงานก่อนเวลา
งานยังไม่เริ่มและยังไม่มีใครมา….

ผมเดินสำรวจสถานที่ประชุม
พบน้องคนหนึ่งซึ่งน่าจะดูแลเกี่ยวกับอุปกรณ์ขยายเสียงบนเวที
เขามองมาที่ผมแล้วถามว่า

“ใช่อาจารย์ที่เขียนหมื่นตาและจะมาบรรยายในวันนี้ใช่ไหมครับ ?”

พอผมตอบว่า “ใช่ครับ”
เขาทำหน้าตกใจแล้วบอกผมว่า

“ผมนึกว่าอาจารย์จะเป็นพระหรือคนแก่ที่บวชเรียนมานานๆซะอีกครับ” 

ผมฟังแล้วก็แอบอมยิ้มในใจนะครับ....ฮ่าๆๆๆ


ก่อนเริ่มงานมีโอกาสได้นั่งสนทนากับพี่ไข่
ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของที่นี่

พี่ไข่พูดคุยอย่างเป็นกันเองมากครับ
ผมเองได้แง่คิดมากมายทั้งจากการพูดคุยบนโต๊ะอาหาร
และบนเวทีเสวนา...


งานเริ่มต้นขึ้นด้วยการปิดโครงการ
ลดเหล้าเข้าพรรษาของบริษัทฯ
เป็นโครงการที่ให้พนักงานมาลงชื่อ
และรับสมุดบันทึกเพื่อตรวจสอบว่า
ในช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาแต่ละคนได้ลดเหล้าไปกี่มากน้อย
เป็นเสมือนสมุดบันทึกที่คอยตรวจสอบเป้าหมาย
ในการลดเหล้า หรือแม้แต่การตั้งเป้าหมายให้กับตนเอง
เช่น การทานเจในช่วงสามเดือน ฯลฯ

มีการให้พนักงานขึ้นมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์
และบอกเล่าถึงผลการปฏิบัติในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
บางท่านก็ทำได้ตามความตั้งใจ บางท่านดื่มน้อยลง
บางท่านก็หยุดได้เลย
ผมคิดว่านี่เป็นโครงการดีดีที่น่ารักนะครับ
อย่างน้อยที่สุดเราก็มีเป้าหมายเล็กๆที่ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
แต่ถ้าทำต่อเนื่องไปทุกปีๆ ผมว่านอกจากจะลดการดื่มเหล้าได้
บางท่านอาจจะเลิกเหล้าแบบเด็ดขาดได้เลย....











ช่วงต่อมาเป็นการพูดคุยถึงเรื่องหนังสือหมื่นตาธรรมะเล่ม 1


บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
มีโครงการแจกหนังสือให้กับพนักงาน
ใครที่อยากอ่านสามารถแจ้งชื่อรับหนังสือไปอ่านได้

และผมรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมาก
ที่ “หมื่นตาธรรมะ” เป็นหนังสืออีกเล่ม
ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมกับโครงการนี้


บนเวทีมีการให้พนักงานและบริษัทคู่ค้าที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้
ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน....

ผมเองนั่งฟังไปด้วย บอกเล่าเรื่องราวของตนเองไปด้วย

ประมวลได้ว่า หมื่นตาเล่มแรกอ่านยากครับ
เป็นการ์ตูนที่ “อ่านง่าย แต่เข้าใจยาก”
(อันนี้พี่ไข่พูดไว้บนเวที และผมคิดว่าเป็นประโยคที่น่าสนใจมาก)

หลายๆตอนในหนังสือเล่มนี้
พูดถึงธรรมะที่ดูง่าย
ปฏิบัติได้ง่าย
แต่ยากที่จะเข้าใจเนื้อหาบางบทบางตอน

ผมคิดว่าปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
ในหมื่นตาเล่ม 2
ซึ่งหนุ่ย (บก.หนังสือ)
ได้ให้ผมเขียนคำอธิบายเพิ่มเติมมากขึ้น
ในส่วนที่ผมเขียนทิ้งไว้เป็นปริศนาธรรม












ส่วนตัวผมเอง
ผมเชื่อว่าธรรมะบอกสอนกันไม่ได้
ปฏิบัติแทนกันไม่ได้
รู้แทนกันไม่ได้
ทำให้รู้ก็ไม่ได้


พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยทำให้สาวกหรือศิษย์คนใดบรรลุธรรม
ท่านเพียงชี้ช่อง
แต่ทางที่เดินไปสู่การรู้แจ้งนั้น
ต่างคน ต่างทำ
ต่างคน ต่างรู้
จะรู้ได้
ต้องลงมือทำ ลงมือปฏิบัติจนรู้แจ้งแทงตลอด
ถ้ามัวแต่สงสัย มัวแต่คิด
ไม่มีทางไปถึงความจริงนี้ได้

และไม่ควรท้อแท้ว่าตัวเราสงสัยจะไม่มีวันรู้ธรรม

เพราะธรรมะที่แท้อยู่ในตัวเรา
อยู่ใกล้ตัวเรา
อยู่ในทุกสิ่ง อยู่ในธรรมชาติรอบตัว
ขอเพียงเราเปิดโอกาสให้ตัวเองได้หยุดคิด
ตรึกตรองพิจารณาถึงความจริงที่อยู่รอบตัวเรา

เชื่อว่า “วันหนึ่ง” ทุกคนย่อมไปถึงซึ่ง
“ความจริงอันสูงสุด” นี้ได้แน่นอน











บนเวที..ผมได้พูดหลายสิ่งหลายอย่าง
ที่เป็นแนวคิดของตัวเองออกไป
และหวังว่าคงจะมีสักประโยคที่สะกิดใจคนฟังได้บ้าง
อย่างน้อยที่สุด...
คงกระตุ้นเตือนให้เราหันกลับมาย้อนมองส่องตน
มาดูสุข-ทุกข์ในตัวเราว่ามันเกิดขึ้นจากที่ไหน ?
และทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกทุกข์ครอบงำชีวิต

ที่สุดแล้วผมเชื่อว่า
การศึกษาธรรมที่ดีที่สุด
ก็ต้องเริ่มจากตัวเราเอง
ต้องเริ่มจากการสำรวจตรวจสอบความคิดของตัวเราเอง


สารภาพว่าแอบตื่นเต้นนิดหน่อยครับ
เตรียมเครื่องบันทึกเสียงไปด้วย
ก่อนพูดก็เปิดสวิชต์เรียบร้อย
แต่พองานเริ่ม ดันลืมกด Record ครับ ฮ่าๆๆๆ


เลยอัดเสียงมาได้เพียงช่วงหลังของการเสวนา
ถ้ามีเวลาจะลองถอดคำพูดออกมาเป็นตัวอักษรให้อ่านกันนะครับ 












ท้ายนี้ขอขอบคุณบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
ที่มอบโอกาสดีดีและพิเศษแบบนี้ให้ผมได้มีส่วนร่วม

ขอบพระคุณพี่ไข่...คุณศาณิต เกษสุวรรณ
กรรมการผู้จัดการบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
การนั่งฟังพี่ไข่พูด
ทำให้ผมได้แง่คิดอะไรดีดีกลับมามากมาย

ไม่สงสัยเลยครับว่าทำไมบริษัทปูนซีเมนต์ไทย
ถึงติดอันดับท็อปทรีของประเทศ 
เป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด

ขอบคุณพี่น้อย....ธีระยุทธ วงค์บุญเรือง
ที่ให้โอกาสผมได้ขึ้นเวทีนี้

ขอบคุณพี่ๆน้องๆบนเวทีเสวนา
พี่ไพโรจน์ น้องไกรและ พี่ผู้หญิงอีกท่าน 
(ขอภัยด้วยครับที่ผมลืมถามชื่อของพี่เอาไว้)

ขอบคุณพนักงาน เจ้าหน้าที่และบริษัทคู่ค้าของปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง
ที่อยู่ร่วมฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวันนั้น

ขอบคุณพี่คนขับรถ..
ที่ตรงเวลา ขับรถดีมาก 
แถมยังแนะนำให้ผมได้รู้จักก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยของลำปาง..
ก๋วยเตี๋ยวบ้านดง
และยังพาไปเที่ยววัดปงสนุกด้วย

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมอ่านและติดตามบล็อกนี้ครับ






กะว่าก๋า














พี่น้อย...พิธีกรในงานวันนั้นครับ











ช่วงเริ่มต้นการเสวนา
พี่น้อย พี่ไข่และกะก๋าครับ...
(ปล. ชุดดำชุดนี้มาดามจัดให้ครับ
เธอว่าอำรางหุ่นดีนักแล 555
และดูสุภาพให้เกียรติสถานที่ด้วย)












บรรยากาศการเสวนาหมื่นตาธรรมะ 1
ผมชอบเวทีมากเลยครับ
ได้ฝากคำชื่นชมไปยังผู้ออกแบบ
พี่น้อยบอกว่าเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ลำปางนี่เองครับ












พี่ไข่..ช่วยเสริมเติมแง่คิดดีดีบนเวทีเสวนาครับ











การได้นั่งฟังวิทยากรแต่ละท่าน
บอกเล่าแนวคิด
ผมเองก็ได้เรียนรู้แง่คิดดีดีไปด้วยครับ












กระดาษขาวและจุดดำ
ตอนหนึ่งที่ผมยกตัวอย่างจากตอน ช่างมันเถิด หมื่นตาธรรมะ เล่ม 1
หลังเสวนาเสร็จ
พี่ผู้หญิงที่ขึ้นเวทีเสวนาด้วยกัน
ขอภาพนี้ไปพร้อมลายเซ็นของผมครับ
ผมอยากจะวาดให้พี่ใหม่จังเลยครับ 555
ภาพนี้วาดขึ้นแบบฉับพลันก่อนขึ้นเวทีไม่กี่นาทีเองครับ แหะๆๆ












มอบลายเซ็นลงในหนังสือให้ผู้ที่มาฟังในวันนั้น











ขอบพระคุณพี่ไข่อีกครั้งครับ
สำหรับโอกาสดีดีในครั้งนี้ที่ปูนซีเมนต์ไทย ลำปาง














กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่