ข่าวสาร-กิจกรรม

:: กะว่าก๋าปัจฉิมนิเทศที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ::

กะว่าก๋า

 

 

:: กะว่าก๋าปัจฉิมนิเทศที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ::



บรรยายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556





{ จิตของผู้เริ่มต้น }


เขียนโดย : กะว่าก๋า





เรายังเป็นหนุ่มและยังเป็นสาว
ยังมีเรื่องราวมากมายให้ค้นหา
ชีวิตวาบวับเพียงหลับตา
ลืมตาตื่นมาต่างเติบโต



เหลือกี่นาทีในชีวิตยังไม่รู้
กี่ความหมายพรั่งพรูดูชีวิต
เดินต่อไป เดินต่อไป แม้ถูก-ผิด
เรียนรู้คิด เรียนรู้ทำ ย้ำเตือนตน



เกิดมาแล้วทุกคนล้วนต้องตาย
แต่ความหมายคุณค่านั้นแตกต่าง
ทุกสิ่งนั้นขึ้นอยู่กับหนทาง
ที่เราสร้างเสริมต่อด้วยมือเรา



ชีวิตเป็นอย่างที่เราคิด
ชีวิตเป็นได้อย่างเราฝัน
ชีวิตเดินทางวันผ่านวัน
ทุกสิ่งนั้น คือ “ชีวิต” ... คิดเอาเอง













{ ผมเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวสั้นๆ
จากนั้นให้นักศึกษาหลับตา
แล้วร้องเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน”
ของครูจรัล มโนเพ็ชรให้ฟัง

เมื่อร้องเพลงจบ ผมอ่านบทกวี “จิตของผู้เริ่มต้น”
ซึ่งเป็นบทกวีที่ผมเขียนขึ้นมา
เพื่อตั้งใจมอบให้น้องๆนักศึกษาเป็นการเฉพาะ

และนี่คือเนื้อหาในการบรรยายครับ }












ตอนนี้พวกเรากำลังเรียนจบการศึกษา
และกำลังก้าวเข้าสู่การเรียนต่อหรือการทำงาน
ทุกคนอาจยังมีคำถามในใจว่า

“เราคือใครและกำลังจะไปไหนต่อ ?”

คนที่เรียนเก่งมากๆ ความกดดันจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
เช่น จะไปสอบเรียนต่อที่ไหน ? ทำงานที่ไหน ?
จะมีโอกาสตัวเลือกที่เยอะ...ถ้าเราเก่ง

แต่คำถามคือ ถ้าเราไม่เก่งและไม่เจ๋งเลย
สอบก็ไม่ผ่าน Project ยังไม่ได้ส่ง
อกหักแฟนบอกเลิก พ่อแม่ทะเลาะกำลังแยกทางกัน
ทุกอย่างในชีวิตดูจะมีปัญหาไปเสียหมด

เรากำลังเป็นคนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต
คำถามคือ
แล้วเราจะทำอย่างไร ?

จะสู้กับคนที่เก่ง เฮง รวย
จะสู้กับคนที่มีโอกาสมากกว่าได้ไหม ?

ตอนนี้พวกเรากำลังเรียนจบ ปวช. ปวส. นั่นคือ “จุดหนึ่ง”
ซึ่งกำลังก้าวต่อไปที่อีก “จุดหนึ่ง”


ทุกคนจะกลายเป็น “ผู้เริ่มต้น”


ตอนที่พี่เรียนจบจากลาดกระบังแล้วกลับมาเชียงใหม่
พี่มั่นใจมากว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตัวเอง
สามารถทำทุกอย่างอย่างที่ฝัน
ตอนนั้นอยากเป็นครู อยากเป็นสถาปนิก
อยากเรียนต่อปริญญาโท ฯลฯ
แต่สุดท้ายวันหนึ่งทุกสิ่งก็หายไปหมด
กลายเป็น “ศูนย์”
เมื่อพ่อพี่บอกว่าให้ไปลาออกจากการเป็นสถาปนิก
เพื่อกลับมาช่วยงานที่ร้าน
มันเป็นเหมือนการกดปุ่ม “Reset” ชีวิต
แล้วทุกอย่างที่เคยคิดเคยฝันไว้ก็กลายเป็น “ศูนย์” ในทันที


พี่อยากจะบอกว่าน้องๆก็จะต้องพบเจอความรู้สึกแบบนี้
บางครั้งโลกไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ

คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง อยากไปสอบเข้าสถานศึกษาชื่อดัง
อาจจะสอบไม่ติดก็ได้
คนที่เรียนไม่เก่งเลย ไปสอบโป้งเดียวอาจจะสอบติดเลยก็ได้
แต่อย่าให้ชีวิตกลายเป็นเรื่องของความบังเอิญ โชคชะตา หรือความฟลุ๊ค
เพราะคนเราไม่ได้ฟลุ๊คตลอด
อาจจะบังเอิญสอบได้ แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะเป็นแบบนี้
ดังนั้น...จงใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด
จริงจังตั้งใจกับทุกๆเรื่อง
แต่จริงจังแบบสนุกได้
ไม่ใช่เคร่งเครียดแบกโลกจนหน้าตาเหมือนคนแก่คนเฒ่า













“จิตของผู้เริ่มต้นคืออะไร ?”

คือ การ Reset ทุกอย่างในความคิดให้เป็นศูนย์
แล้วนับหนึ่งใหม่



ชีวิตคนเราเริ่มนับจากหนึ่ง สอง สาม สี่
แต่ไม่ใช่ห้าเสมอไป
อาจถอยกลับมาที่ศูนย์อีกก็ได้ใครจะไปรู้
แต่จงนับต่อ อย่ายอมแพ้

วันนี้ไม่เก่งไม่เป็นไร
ไม่มีใครเกิดมาแล้วเก่งเลย
ไม่มีใครเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่แล้ววาดรูปสวยทันที
ทุกอย่างเกิดจากการฝึกฝน อดทนด้วยใจรัก

“ใจรัก” เกิดจากการรู้จักตัวเอง
รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร ?
แล้ววัยที่เหมาะที่สุดที่จะค้นหาว่าตัวเองนั้นชอบอะไร
ก็คือ วัยแบบน้องๆ 18 19 20
เพราะมันลองผิดลองถูกได้ ล้มได้
และล้มได้หลายๆครั้ง
พี่เองมีลูก พี่อยากให้ลูกของพี่ล้มเหลวเยอะๆ
ไม่ใช่อยากให้สำเร็จเยอะๆ
การที่คนเราสำเร็จอย่างเดียว เก่งอย่างเดียว เรียนอย่างเดียว
จะทำให้เห็นโลกเพียงด้านเดียว
แต่โลกนี้เป็นวงกลม มีด้านหน้า ด้านหลัง
ด้านซ้าย ด้านขวา ด้านบน ด้านล่าง
แถมโลกยังหมุนตลอดเวลา
อย่าเป็นคนที่มองอะไรด้านเดียว
แล้วตัดสินคนหรือตัดสินทุกสิ่งจากสิ่งที่เรามองเห็น


คนไม่เก่งย่อมต้องมีอะไรที่เก่ง
และคนเก่งก็ต้องมีอะไรที่ไม่เก่ง

ดังนั้น...หนึ่ง...อย่าดูถูกตัวเอง
และสอง อย่าดูถูกคนอื่น












วันก่อนพี่นอนดูหนังเรื่องหนึ่งกับลูก
หนังเรื่อง The Karate Kid
เป็นเรื่องราวของเด็กอเมริกันคนหนึ่งซึ่งย้ายไปอยู่เมืองจีน
แล้วไปเจอกลุ่มเด็กคนจีนมารุมรังแก
รังแกด้วยกังฟู แถมโดนทำร้ายอยู่ตลอดเวลา
จนเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากอยู่เมืองจีนแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว
แต่บังเอิญไปเจออาจารย์กังฟูคนหนึ่งยอมสอนวิชากังฟูให้
เด็กคนนี้แอบคิดว่าอาจารย์คงสอนท่าเตะต่อย ท่าตีลังกาให้
ปรากฏว่าหลายวันผ่านไป อาจารย์สอนเพียงบทเรียนเดียวให้กับเด็กคนนี้
นั่นคือให้หยิบเสื้อแจ๊คเก็ตจากพื้นขึ้นมาใส่ ใส่แล้วก็ถอดเสื้อวางลงไปบนพื้น
ก้มๆเงยๆ ใส่เสื้อ ถอดเสื้อ ใส่เสื้อ ถอดเสื้ออยู่อย่างนี้
ให้ทำทุกวันเป็นพันๆหมื่นๆครั้ง
โดยไม่ยอมสอนกังฟูอะไรใดใดเลย
จนที่สุดเด็กต่อต้านว่าไหนล่ะกังฟู นี่ไม่ใช่กังฟู
จะเลิกเรียน ไม่อยากทำต่อไปอีกแล้ว
อาจารย์จึงสอนว่า

“กังฟูอยู่ในทุกสิ่ง อยู่ในทุกอย่างรอบๆตัว”

ท่าที่ถอดเสื้อ ใส่เสื้อ ล้วนแต่ประยุกต์เป็นท่ากังฟูได้ทั้งสิ้น

นี่คือการเรียนรู้โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเรียนรู้

เมื่อสักครู่ก่อนเข้ามา
พี่ไปยืนดูห้องแสดงผลงานนักศึกษา
มีหุ่นจำลองเรือวางอยู่หลายลำ
ไปดูแล้วก็ทึ่ง เด็กที่นี่เก่ง
ประกอบเรือจำลองโค้งๆจากไม้บัลซ่า
เรือนี้สวยมาก
ไม่รู้น้องๆจะรู้หรือเปล่า
ว่าการทำเรือได้แบบนี้ก็คือ การฝึกฝน
ถ้าน้องเอาจิตใจที่ตั้งใจทำเรือแบบนี้
ไปใช้กับเรื่องอื่นของชีวิต
รับรองว่าน้องจะประสบความสำเร็จมาก

เวลาน้องมีแฟน
แล้วดูแลแฟนเหมือนที่ตั้งใจต่อกระโดงเรือ
รับรองว่าแฟนน้องจะรักน้องมหาศาล

แล้วถ้าอ่านหนังสือสอบด้วยความรู้สึกที่ตั้งใจแบบนี้
ผมว่าคุณไปสอบที่ไหนก็สอบติด
อย่าไปแยกว่าวิชานี้ฉันชอบ ฉันจึงเรียน
วิชานี้ฉันไม่ชอบอาจารย์ ฉันเลยไม่เรียน
วิชานี้ไม่ถนัด เลยไม่ชอบ

ทุกอย่างมันคือการเรียนรู้หมดเลย
ทั้งสิ่งที่เราชอบ และสิ่งที่เราเกลียด
ทั้งคนที่เรารักและคนที่เราเกลียด
ทุกอย่างเป็นครูของเราหมดเลย

คนที่เราเกลียด
เขากำลังสอนเราเรื่องการให้อภัย
คนที่เราชอบ
เขากำลังสอนให้เราระมัดระวัง
เพื่อดูแลความรู้สึกของคนที่เรารักว่าจะต้องทำอย่างไร

มองทุกสิ่งให้เชื่อมโยงกัน

วันนี้เรากำลังจะเรียนจบ
กำลัง Reset ตัวเองเป็นศูนย์
เพื่อจะเริ่มต้นใหม่
เพราะฉะนั้นใครที่เก่งอยู่แล้ว ตั้งใจดีอยู่แล้ว
รักษาจิตใจแบบนี้เอาไว้
ส่วนใครที่ยังคิดในแง่ลบกับตัวเอง
รู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตมันแย่มากๆ
เปลี่ยนมุมมอง แล้ว Reset ตัวเองใหม่
แล้วนับ 1 2 3 4
สิบปีข้างหน้าในห้องนี้อาจมีบางคนนับไปถึงล้าน
บางคนอาจมีสิบล้าน บางคนมีห้าแสน บางคนมีห้าหมื่น
บางคนอาจอยู่ที่ศูนย์เหมือนเดิม และบางคนอาจติดลบไปเลย

มันอยู่ที่ใครครับ
อยู่ที่อาจารย์ ?
อยู่ที่เจ้านาย ?
อยู่ที่พ่อแม่ ?

ไม่ใช่สักคน
เพราะทุกสิ่งอยู่ที่ “ตัวเรา” เอง

ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง












วันก่อนไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวโกเหลียง
ไปกับแฟนและน้องสาว
สั่งเหมือนทุกครั้ง...เส้นใหญ่สดเปื่อย
แล้วก็เหล่กัน โกเหลียงนอนอยู่บนเตียงผ้าใบ
คงเพราะลูกค้ายังน้อย โกเหลียงเลยไม่ทำ
แต่กวักมือเรียกลูกชายมาทำแทน
ลูกชายทำเสร็จยกมาเสิร์ฟสามชาม
กินเข้าไปคำแรกรู้เลยครับว่าไม่อร่อย ไม่เหมือนเดิม
คราวนี้สั่งต่ออีกคนละชาม
โกเหลียงเห็นลูกค้าเริ่มทยอยเข้าร้าน
ลุกขึ้นไปนั่งบนเรือลวกก๋วยเตี๋ยวอย่างทะมัดทะแมง
ลวกเส้นด้วยท่าเดิม ใส่เครื่องปรุงฉึบๆๆๆๆ
เสร็จแล้วเสิร์ฟ
กินเข้าไปคำแรก ...อร่อย
รสชาติไม่เหมือนกันเลย

ทั้งๆที่เครื่องปรุงบนเรือชุดเดียวกันหมด
น้ำปลา พริก น้ำส้ม เส้น เนื้อ ผัก ฯลฯ
แต่ทำไมคนสองคนลวกออกมารสชาติไม่เหมือนกันเลย
นี่คือเรื่องของความแตกต่าง
เราอยากเป็นใครครับเวลาที่ไปทำงาน ?
อยากเป็นโกเหลียงหรืออยากเป็นลูกชาย

สิ่งนี้เกิดจากความชำนาญและความตั้งใจ
ต้องรักในสิ่งที่ทำ
ถ้าสักแต่ว่าทำ คนเขาดูออก
คนกินดูออก เจ้านายดูออก อาจารย์ดูออก
เวลาเรียนก็เช่นกัน เวลาทำงานก็เหมือนกัน
ต้องตั้งใจ ต้องทำอย่างสุดกำลัง

ไม่รู้ต้องบอกว่าไม่รู้
ไม่รู้แต่ไปบอกว่ารู้ เราจะยิ่งไม่รู้

ตอนนี้ความรู้ของเรามีขีดจำกัด
เป็นแค่นิ้วก้อย ถ้าอยากเป็นกำปั้นทั้งกำปั้น
ต้องเรียนรู้จากคนที่เขารู้เยอะกว่า

อย่าคิดว่าตัวเองรู้ ต้องคิดไว้ก่อนว่าไม่รู้
ต้องโง่อยู่ตลอดเวลา
มันจะทำให้เราหิวกระหายที่จะอยากฉลาด

ชีวิตคือการเรียนรู้
เรียนรู้ไปเรื่อยๆ
นี่จะทำให้เราพัฒนาตนเองได้เร็ว

ฟังให้เยอะๆเวลาที่ใครเขาพูด
ฟังอย่างตั้งใจ
คนทุกคนเป็นครูของเราได้หมด
เพียงแต่เราตั้งใจฟังเขาพูดแล้วหรือยัง












ตอนนี้เหมือนเรา Reset ตัวเองไว้ที่ศูนย์
อย่าลืมถามตัวเองด้วยว่าจะไปทางไหน ? จะไปทิศไหน ?
มีคำตอบให้กับตัวเองแล้วหรือยัง
ต้องมีแล้วนะครับ
เพราะกระพริบตาอีกไม่กี่ทีคุณก็จะอายุ 40
แล้วเมื่ออายุ 40 แล้วยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะไปทางไหนต่อ
โอ้โฮ...ชีวิตวังเวงเลยนะครับ


วันนี้ต้องเริ่มถามตัวเองได้แล้ว

ว่าจะทำอะไร ?
จะไปไหนต่อ ?

เหมือนคนจะเดินทางจากเชียงใหม่จะไปกรุงเทพ
ก็ต้องวิ่งถนนเส้นลำปางล่องใต้ไปเรื่อยๆจนถึงกรุงเทพ
แต่ถ้าดันขับไปเส้นเชียงราย
ขับยังไงมันก็ไปไม่ถึงกรุงเทพสักที

ดังนั้น
อย่าเสียเวลาในชีวิตไปกับสิ่งที่เราไม่อยากจะทำมันอย่างแท้จริง

อะไรที่คิดแล้วว่าใช่ ว่าชอบ ว่าเชื่อ
จงเลือกสิ่งนั้น
แล้วลงมือทำให้ดีที่สุด












{ เปิดโอกาสให้ถาม..แต่ทุกคนเงียบกันหมด }



เมื่อน้องสงสัย และน้องไม่รู้ แต่น้องไม่ถาม
น้องก็จะไม่รู้ตลอดไป
แต่ถ้าน้องถาม น้องก็จะรู้

ขอจบการบรรยายแต่เพียงเท่านี้
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ














: กะก๋าขอขอบคุณ :




อาจารย์พงษกร ศรีมณี และคณะอาจารย์ของวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่


นักศึกษาทุกคนที่นั่งฟังด้วยความตั้งใจ


น้องนักศึกษาที่ช่วยถ่ายภาพให้

 

กล่องความคิดเห็น

การแสดงความคิดเห็นเปิดสำหรับสมาชิกเท่านั้น
ลงชื่อเข้าระบบสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกใหม่